เรื่องน่ารู้และ ข้อกำหนดเข้าประเทศ “มาเลเซีย”

 ข้อกำหนดเข้าประเทศ “มาเลเซีย” ช่วงนี้ก็เที่ยวได้อีก หลายประเทศเปิดให้เดินทางโดยไม่ต้องกักตัว และประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทยในหลายๆ ด้าน ขณะนี้ประเทศได้เปิดให้ท่องเที่ยวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลาว เวียดนาม สิงคโปร์ รวมถึงมาเลเซีย สำหรับมาเลเซียถือเป็นอีกประเทศที่เดินทางง่าย ใกล้ไทย เที่ยวคนเดียว ก็ได้

ซึ่งทำให้คนไทยหลายคนเริ่มไปเที่ยวต่างประเทศโดยเลือกประเทศแรกคือมาเลเซีย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปต่างประเทศคนเดียวครั้งแรกโดยไม่มีเพื่อนหรือแฟนไปร่วมสาวชาวป่าก็คือมาเลเซีย ใช่. และเนื่องจากตอนนี้ได้เวลาเที่ยวอีกแล้วเราเลยมาขอเขียนข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่อยากไปแต่ยังกังวลอยู่นิดหน่อย แล้วไปเที่ยวมาเลย์มีอะไรต้องรู้หรือต้องทำและเตรียมตัวยังไงบ้างมาอ่านพร้อมๆ กันเลยค่ะ

 

 ข้อกำหนดเข้าประเทศ “มาเลเซีย” ฟรีวีซ่าคนไทย

 

เรื่องแรกคาดว่าทุกคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่ามาเลเซียนั้นฟรีวีซ่าคนไทย ซึ่งสามารถอยู่ได้ 30 วัน ดังนั้นแค่มี พาสปอร์ต ที่มีอายุใช้งานคงเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนก็สามารถไปมาเลเซียได้ง่ายๆ ไม่ต้องยุ่งยากเตรียมเอกสารขอวีซ่ากันเลย

 

สภาพอากาศ

 

มาเลเซียนั้นเป็นประเทศที่อยู่ใน เขตร้อนชื้น ส่งผลทำให้มาเลเซียเจอฝนตกตลอดทั้งปี ดังนั้นไม่เกี่ยวว่าจะหน้าร้อนหรือหน้าฝน ไม่ว่าจะเดือนไหนๆ นักท่องเที่ยวก็อาจจะเจอฝนตกได้เช่นกัน ซึ่งตอนที่ผู้เขียนไปช่วงเดือนธันวาคม ไป 8 วันเจอฝนไป 2 วันเลยแถมตกหนักจนไม่สามารถออกเที่ยวได้ด้วย ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนจะไปอยู่นั้น อาจจะต้องมีแผนสำรองสำหรับการรับมือกับฝนด้วย ด้านอุณหภูมินั้นจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 22-36 องศาเซลเซียส ส่วนตัวรู้สึกว่าอากาศร้อนใกล้เคียงกับประเทศไทย แต่เอาแน่เอานอนเรื่องฝนไม่ได้

 

เวลาเร็วกว่าไทย

 

หลายคนก็สงสัยว่าทำไมมาเลเซียใกล้ๆ ไทยแท้ๆ แต่ ไทม์โซน กลับต่างกันเป็นชั่วโมง ซึ่งถ้าเราไปหาคำตอบมันก็จะเจอหลายปัจจัยที่ทำให้มาเลเซียเลือกใช้ไทม์โซนเดียวกับสิงคโปร์ ทั้งในแง่ธรุกิจ การลงทุน การค้าขาย รวมถึงตามภูมิศาสตร์ ใดๆ ก็ตามสรุปแล้วเวลาของมาเลเซียจะเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง นักเดินทางอย่าลืมปรับเวลาเข้าออกประเทศตามนั้นด้วยนะคะ ไม่งั้นอาจจะหลงเวลา พลาดรถไฟหรือเที่ยวบินได้

 

สกุลเงินคือริงกิต

 

มาเลเซียจะใช้ เงินสกุลริงกิต  ซึ่ง 1 ริงกิต จะเท่ากับ 7.82  บาท ( ข้อมูล ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2565 ) และราคาข้าวของ ที่นี่จะมีเลขไม่กี่หลัก ราคาของกิน 5, 10, 15, 20 ริงกิต เป็นราคาที่ดูน่ารัก เหมือนจะราคาเบาๆ แต่จริงๆ มันไม่เบาเลยนะคะ มื้อเช้าเป็นเซต 70 ริงกิตนี่ก็เกือบห้าร้อยเลยนะ ตอนกินก็ไม่ได้แปลงเงิน มองแค่ 70 ริงกิตก็ราคาปกติ แต่พอแปลงเงินไทยเท่านั้นแหละ ถึงกับต้องถามตัวเองว่าฉันต้องกินมื้อเช้าแพงเบอร์นี้เลยหรอ ก็นั่นแหละค่ะ ต้องระวังเวลาจ่ายเงิน ถ้าจ่ายเพลินไปอาจจะล้มละลายได้เลย

 

ระบบไฟฟ้า

 

ระบบไฟฟ้าของมาเลเซียจะเป็นแบบ 240 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิรตซ์ ลักษณะปลั๊กไฟจะเป็นแบบสามขาแบน ซึ่งปลั๊กไฟไทยจะใช้ไม่ได้ควรเตรียมอะ แดรปเตอร์ (Adapter) หรือปลั๊กแปลงไฟไปด้วย

 

คนมาเลเซียส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม

 

แน่นอนว่าความต่างของศาสนานั้นไม่ใช่ปัญหาหรืออุปสรรคในการเดินทาง แต่ในช่วง เดือนรอมฎอน ซึ่งจะมีการถือศีลอดนั้น อาจทำให้มีอาหาร ร้านค้าเปิดบริการน้อย และบางสถานที่ท่องเที่ยวอาจปิดทำการ ดังนั้นอาจหาที่เที่ยวที่กินยากกว่าปกติ แต่ก็ยังสามารถไปเที่ยวได้อยู่เพียงแค่ต้องวางแผนในการท่องเที่ยวให้รัดกุมยิ่งขึ้น

 

การเดินทางในเมืองใหญ่ ๆ

 

การเดินทางภายในประเทศค่อนข้างง่าย มีทั้งรถไฟ และรถเมล์ สามารถเลือกเดินทางตามที่สะดวกได้เลย แต่แท็กซี่จะราคาแรงอยู่พอตัว จากประสบการณ์ที่ไปมา รถไฟบ้านเขาค่อยข้างมีเส้นทางครอบคลุมหลายๆ เขตพื้นที่ อีกทั้งเมล์ก็เยอะพอตัว ไม่ได้สะดวกแค่ในเมืองใดเมืองหนึ่งเท่านั้น แต่การเดินทางระหว่างเมืองก็ง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก เพราะมีรถไฟคอยบริการอยู่ ไม่ว่าจะไปอิโปห์ ปีนัง กัวลาลัมเปอร์ ก็สามารถไปด้วยรถไฟได้ง่ายๆ

 

อาหารอร่อยมาก

 

มามาเลเซียแล้วก็อยากให้ลองชิมอาหารมาเลเซียหน่อย มีที่อร่อยๆ เยอะมากเลยค่ะ แต่ที่ผู้เขียนชอบมากๆ ก็คือ นาสิก มันจะเป็นข้าวที่มาเป็นเซต ส่วนใหญ่จะมาพร้อมของทอด น้ำพริกและผักต่างๆ อร่อยมากๆ ค่ะ แบบที่เป็นและแกงก็มีนะคะ เลือกดูเซตที่ถูกใจได้เลย แต่เรื่องรสชาติคือดีมากจริงๆ นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องดื่มอย่าง โกปีและมิโล่ที่อยากให้ลอง โดยเฉพาะมิโล่ หรือก็คือไมโล เป็นไมโลที่รสชาติดีมากๆ ค่ะ

 

เมืองน่าเที่ยว

 

เมืองน่าเที่ยวของมาเลเซียไม่ได้มีแค่กัวลาลัมเปอร์และปีนังเท่านั้น เพราะยังมีทั้ง มะละกา อิโปห์ และปุตราจายา ซึ่งแต่ละเมืองก็สวยแตกต่างกัน อย่างปีนังก็จะโดดเด่นในเรื่องของสตรีทอาร์ต เที่ยวง่าย อิโปห์ก็มีกลิ่นอายความทันสมัยและยังคงมีสตรีทอาร์ตอยู่ทั่วเมือง เป็นเมืองที่มีารผสมผสานความเป็นสมัยใหม่และเก่า มะละกา เมืองมรดกโลก ที่เป็นเมืองท่าของมาเลเซีย มีความคลาสสิค สุดท้ายก็คือกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงที่โอ่อ่าและเต็มไปด้วยความทันสมัย หากใครมีเวลาแพลนดีๆ อาจเที่ยวทีเดียวครบทั้งปรเทศภายในทริปเดียวก็เป็นได้ เพราะการเดินทางภายในประเทศค่อนข้างง่ายขอแค่มีเวลาอย่างเดียวก็น่าจะเก็บได้ทุกเมืองสวยเลยล่ะค่ะ

 

 การเดินทางเข้าประเทศและข้อกำหนดเข้าประเทศช่วง

 

การเดินทางเข้ามาเลเซีย

 ข้อกำหนดเข้าประเทศ “มาเลเซีย” การเดินทางเข้ามาเลเซียนั้นสามารถไปได้ด้วยเครื่องบิน รถไฟ และรถยนต์ หรือรถตู้ โดยปกติแล้วก่อนมีโควิดนั้นสามารถเข้ามาเลเซียทางปาดังเบซาร์ ซึ่งมีรถไฟสายใต้ที่ข้ามเข้าไปที่ปาดังเบซาร์ฝั่งมาเลเซีย หรือนั่งรถไฟไปที่หาดใหญ่แล้วนั่งรถตู้เข้าไปที่มาเลเซียก็ได้เช่นกัน สามารถใช้บริการรถรับส่งของ KST Travel จากหาดใหญ่ได้เลย

ข้อกำหนดเข้าประเทศช่วงโควิด 19

ตอนนี้สามารถเที่ยวมาเลเซียได้แล้วแต่ก็ยังมีข้อกำหนดการเข้ามาเลเซีย โดยอนุญาตให้ผู้เดินทางเข้าทุกเชื้อชาติเข้าได้โดยต้องฉีดวัคซีนครบสองโดส ถึงจะสามารถเข้าได้โดยไม่ต้องกักตัว โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบโดส จะต้องทำการกักตัว เป็นเวลา 5 วันเมื่อเดินทางมาถึง
  • ยังคงตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ก่อนเดินทางเข้าสิงคโปร์ก่อน 48 ชั่วโมง และทำการตรวจ RTK-Ag ภายใน 24 ชั่วโมงเมื่อเดินทางมาถึง
  • ดาวน์โหลดและเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน MySejahtera contact Tracing และทำการกรอกแบบฟอร์ม  Traveller ก่อนออกเดินโดยไม่ต้องสมัคร MyTravelPass ทั้งนี้สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้จาก Apple App Store, Google Play Store และ Huawei AppGallery
  • ยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ และทำการเช็คอินผ่านแอปพลิเคชัน MySejahtera ทุกครั้งในเข้าสถานที่ต่างๆ

ทั้งนี้ข้อกำหนดอาจมีการปรับเปลี่ยนไปตามเวลา ผู้เดินทางควรอัปเดตตรวจสอบก่อนไปนะคะ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ไม่น่ามีอะไรน่ากังวลแล้ว เรื่องการแต่งกายแม้ชาวมาเลเซียจะมีวัฒนธรรมแต่งตัวมิดชิดแต่นักท่องเที่ยวก็สามารถแต่งได้ตามปกติ เพียงแต่ว่าหากมีแพลนจะเข้าไปเที่ยวมัสยิดหรือสถานที่สำคัญต่างๆ ก็ควรจะแต่งกายให้มิดชิดและสุภาพเพื่อเป็นการให้เกียรติวัฒนธรรมของพวกเขาด้วย

 

บทความแนะนำ